"เมื่อ...เมียก่อหนี้สินท่วมหัว"

สวัสดีครับ  .............  
            ผม ชื่อ แมน ครับ อายุ 37 ปี ทำงาน บริษัทเอกชนใหญ่แห่งนึงครับ
ส่วนแฟนผมอายุ 31 ปี ทำงานบริษัทเหมือนกัน แต่อยู่ใกล้กันครับ  เงินเดือนของผมค่อนข้างจะเยอะ แต่เงินเดือนเยอะภาระก็เยอะตาม ผมต้องช่วยทางบ้านผมผ่อนบ้านหลังใหญ่ เดือนละ 3หมื่นกว่าบาท เพราะหนี้เงินต้นก็เกือบๆ 10 ลบ. ครับ  พ่อแม่ผมเค้าทำธุรกิจ แล้วตอนนี้ขาดทุน บริษัทกำลังจะปิดตัวครับ  เงินไม่พอใช้จ่ายในบ้าน ทั้งคู่ พ่อแม่ผมก็แก่มากแล้ว ท่านอายุเกือบๆ 70 ทั้งคู่   ผมในฐานะที่เป็นลูกกตัญญู  ผมจึงกู้เงิน และผ่อนไปครับ  ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ผมค่อนข้างเครียดครับ  ช่วงที่ผมเครียด ช่วงนั้น แฟนผมก็ได้เข้ามาในชีวิตผม เข้ามาเป็นกำลังใจให้ผม ผมถึงได้มีกำลังลุกต่อสู้กับปัญหาหนี้สิน 10 ลบ. นี้  สักวันหนี้ก้อนนี้มันต้องหมดไป   ผมเครียดอยู่หลายปี ครับ จริงอยู่ที่ผมเองมีเงินเดือนเยอะ แต่ก็ใช้หนี้หมดไปเยอะเหมือนกัน อีกอย่าง การใช้ชีวิต ใน กทม. มันโหดร้ายครับ ข้าวของแพง ค่าครองชีพแพง  

     ช่วงที่เราคบกันเป้นแฟน เราก็ใช้จ่ายค่อนข้างเปลือง เพราะ in love ช่วงนั้นมากๆ ไปเที่ยว ดูหนัง ไปช้อปปิ้ง  ผมรักแฟน ผมก็เปย์ไม่อั้นครับ  
ผมกับแฟน ช่วงที่คบกันเป็นอะไรที่ดีมากๆ ครับ แฟนผมเขาเป็นคนน่ารัก นิสัยเหมือนเด็กๆ ขี้อ้อนมาก และผมก็แพ้คนแบบนี้ด้วย
ผมกับแฟนรักกันมาก จริงจัง และวางแผนที่จะแต่งงานกัน    ผมคบกับแฟนผมได้ 4 ปี ตัดสินใจแต่งงานกัน  ช่วงที่เราวางแผนจะแต่งงาน เราก็พอมีปัญหาเรื่องเงินบ้าง แต่ผมและแฟน ค่อนข้างมีเครดิต จึงสามารถกู้กับธนาคารมาแต่งงานได้  + มีเงินเก็บส่วนหนึ่ง

   หลายคนคงสงสัยว่า ทำไมผมจึงต้องแต่งงานท่ามกลางวิกฤติการเงินในบ้านผมด้วย  เพราะว่าผมและแฟน  เรามีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากๆ พ่อแม่แฟนผม และพ่อแม่ผม  ต่างคนต่างมีความเห็นว่าควรแต่งงานกัน (ทั้งๆที่ไม่พร้อม) แต่ไม่เป็นไรครับ ผมเป็นผู้ชายผมรับผิดชอบด้วยการแต่งงาน และก็เป็นเพราะกันจริงๆ ด้วย ถึงจะลำบากเรื่องเงิน เราจะผ่านไปด้วยกัน  
  
   แฟนผมบ้านไม่ได้รวยอะไรมากครับ  แต่เพราะเป็นความสามารถของเค้าครับ  มาทำงานไม่กี่ปี เค้าได้ตำแหน่งหัวหน้างาน และได้รับผิดชอบงานต่างๆ ผลงานออกมาดี เจ้านายปลื้ม ให้เงินเดือนเยอะครับ และด้วยความที่เค้าเป็นคนน่ารัก เค้าจะมีเพื่อนฝูงมากมาย เวลาทำงานเสด เค้าต้องไปเลี้ยงฉลองกันตลอดครับ  แฟนผมมีข้อเสียครับ  คือ "เรื่องเงิน"  แฟนผม เป็นคนค่อนข้างใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ซื้อของแบรนด์เนม เครื่องสำอางค์แบรนด์เนม เสื้อผ้าแบรนด์เนม ทุกอย่างต้องแบรนด์เนมครับ  แต่ผมไม่เคยว่าอะไร เพราะเปนความสุขของเค้า  เงินเดือนของแฟนผม ค่อนข้างเยอะครับ ถ้ารวมกับคอมมิชชั่น
เงินเดือนเยอะ ใช้จ่ายเยอะตามครับ มีลูกน้องต้อง เปย์ลูกน้อง  เพื่อซื้อใจครับ  แล้วเป็นหน้าใหญ่มากๆ ครับ และผมรู้ผมว่า หลายครั้ง หลายคราวมากๆ จนบางครั้งเราทะเลาะกันหนักหน่วง แต่เราก็กลับมาคืนดีกันครับ

   เราแต่งงานกันได้ 3 ปี ครับ จดทะเบียนสมรสกัน อยู่ด้วยกันฉันสามี ภรรยา เหมือนคู่ทั่วไปที่ บ้านของผม เอง ผมอยู่กัน ฉันสามี ภรรยา ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นแบบอย่างให้คู่รักทั่วไป เลยครับ มีแต่คนอิจฉา เพราะคู่เราหวานกันมากๆ จนกระทั่งวันหนึ่งผม ผมได้รับจดหมายทวงหนี้ครับ ส่งมาที่บ้าน เป็นบัตรเครดิตหลายใบ  รวมๆ หนี้แล้ว ประมาณ  2 ลบ. ครับ คือ ผม อึ้ง ครับ ผมเครียด จุกอก คิดอะไรไม่ออก ครับ เย็นวันนั้น แฟนกลับมา ผมได้แต่ตั้งคำถามครับว่า เอาไปใช้ทำอะไร ทำไมถึงเยอะแยะมากมาย มีอยู่ใบนึงครับ  แฟนผมเอาไปรูดซื้อเปนของขวัญลูกน้อง เป็นเครื่องสำอาง แบรนด์ ทั้งนั้น เกือบ 10 รายการ และอื่นๆ ที่เค้าเอาไปใช้ฟุ่มเฟือย

     ผมเครียดมาก จนบอกเลิกกับแฟนผมหลายครั้ง ขอหย่าหลายครั้งครับ เพราะผมไม่ไหวกับเรื่องที่เกิดขึ้น จนผ่านมา 1 เดือนแล้ว เราแยกกันอยู่ กันซักพัก เค้าโทรหาผมทุกวัน ครับแต่ผมเบื่อ แต่ก็รับบนะครับ แต่ไม่ได้คุยอะไรมาก ผมจะไม่ย้อนไปเรื่องที่มันเกิดขึ้นแล้วครับ แรกๆ อาจจะช้ำใจมากครับ เพราะความที่เ้คาโกหกผม และใช้เงินมากมายขนาดนี้ 2 ลบ. ซื้อบ้านได้หลังนึงเลย   ผมไม่มีปัญญาหาเงินมาผลดทั้งหมดครับ เพราะผมเองก็มีภาระหนี้สิน
   เพราะคววามผิดพลาดครั้งนั้น แฟนผม เริ่มหยุดพฤติกรรมการใช้เงิน สิ้นเปลือง  และหันหารายได้เสริม ช่วยกันใช้หนี้ใฃ้สิน  จากการกู้ยืมมาปิดบัตรบางส่วนบ้าง ใช้ไม่หมด ก็หารายได้ไปครับ ปลดทีละใบ เดี๋ยวมันก็หมด ครับ

    จนตอนนี้ ผมและแฟนผมเรากลับมาคืนดีกันตั้งวันนั้น ตอนนี้ ครบ 1 ปี รายได้เสริมขายของออนไลน์บ้าง ทำงานเสาร์ อาทิตย์บ้าง ช่วยลดต้นเงิน ที่กู้ยืมมาได้เยอะครับ  แฟนผมก็ปลี่ยนนิสัย และพฤติกรรมไปครับ  เราทะเลาะกัน เกือบจะเลิกกัน เพราะเรื่องหนี้สิน  แต่ .... ผมไม่ทิ้งแฟนครับ ....
ผมให้คำมั่นสัญญา กับแฟนผม ว่า เกิดอะไรขึ้น ผมสัญญากับพ่อตา แม่ยายของผมครับ ว่าจะดูแลซึ่งกันและกัน
และปัญหาครั้งนี้มันใหญ่มากจนเกินจะรับไหว มันเกิดขึ้นกับหลายๆ ครอบครัว ครับ ปัญหาหนี้สิน ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด...

แต่..  ท่ามกลางปัญหา เราต้องมี "สติ" ครับ  เราควรมานั่งช่วยกันคิดแก้ปัญหากันว่าเราควรจะทำอย่างไร
ช่วงที่เกิดเรื่องใหม่ๆ ผมทิ้งเค้านะ ผมยอมรับเลย เพราะผมกะจะขอหย่ากับเค้า แต่ในใจ ผม ยังรักเค้าเสมอครับ
ถึงแม้ว่า  ตัดแฟนผมออกจากชีวิต ผมเองก็อยู่ได้ แต่ผมไม่ทำครับ  เพราะความรัก ทำให้เราลุกขึ้นสู้ช่วยกันแก้ปัญหากัน

หลายๆคนที่ผม เคยค้นเจอ ในกระทู้บ้าง บางคู่ หย่าร้างกันเพราะเรื่องหนี้สิน  ผมคิดว่า มันไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ดีครับ
ส่วนตัวผมเอง ผมพร้อมฃ่วยแก้ปัญหาและหยิบยื่นน้ำใจ ให้กับคนที่เรารัก

จนตอนนี้ผมและแฟน เรามีลูกกันครับ แต่ เรื่องเงิน เอามาเลี้ยงลูก ผมก็ให้พ่อแม่ผมเลี้ยง แฟนเลี้ยงบ้าง
  จนตอนนี้ ชีวิตผมดีครับ ถึงแ้จะมีหนี้สินเป็น"สิบล้าน" รวมๆแล้ว  
ความใจสู้ของผมและภรรยา สักวัน เราต้องผ่านอุปสรรคนี้ไปให้ได้
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  หย่าร้าง ประสบการณ์ชีวิตคู่ หนี้สิน (Liability) การเงิน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่